การตรวจหาสาเหตุของโรคมะเร็ง?
การตรวจหาสาเหตุของโรคมะเร็ง?
โดยปกติแล้วการตรวจสุขภาพร่างกายนั้น แพทย์จะทำการเจาะเลือดไปตรวจหาสาเหตุของโรคต่าง ๆ แต่แพทย์มักจะไม่นิยมส่งเลือดไปตรวจหาสารที่บ่งบอกของโรคมะเร็ง แต่แพทย์จะส่งตรวจในรายที่มีความ่สี่ยงสูงเท่านั้น สารที่แพทย์ส่วนใหญ่นิยมนำมาวิเคราะห์เพื่อติดตามการรักษาได้แก่
- สารบ่งบอกมะเร็งตับ AFP (Alphafetoprotein)
- สารบ่งบอกมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Specific Antigen (PSA))
- สารบ่งบอกมะเร็งลำไส้ใหญ่ CEA (Carcinoembryonic Antigen)
- สารบ่งบอกมะเร็งตับอ่อน CA19-9
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรมีอัตราเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งตับในอัตราที่สูง พบว่า มีอัตรา 41 ต่อประชากรชายหนึ่งแสนคน และ พบว่าประมาณ 16.3 ต่อประชากรหญิงหนึ่งแสนคนมีอัตราเสี่ยง ซึ่งถือว่ามีอัตราที่สูงพอสมควร ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเป็นโรคมะเร็งตับนั้นคือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีนั้นเอง ปัจจุบันการหาสาเหตุของโรคมะเร็งตับมีอยู่สองวิธีด้วยกัย
ได้แก่
- การตรวจหา AFP ในเลือด
- และการตรวจภาพตับด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
การตรวจ AFP นั้นมีข้อจำกัดคือว่า เมื่อตรวจพบมะเร็งตับที่มีอาการมากแล้วก็ตามประมาณร้อยละ10-15 แต่ค่าAFP ยังปกติอยู่ และระดับของ AFP ก็ไม่มีความสัมพันธืกับขนาดของมะเร็งอีกด้วย
ข้อแนะนำ
ประชาชนทั่วไปไม่แนะนำให้คัดกรองโรคมะเร็งตับด้วยการตรวจทั้งสองวิธี แต่สำหรับประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการศึกษาในต่างประเทศพบว่าการตรวจคัดกรองด้วยสองวิธีดังกล่าวจะให้ผลดีต่อการวินิจฉัย
ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้แก่
- มีประวัติโรคตับแข็ง
- โรคตับอักเสบเรื้อรัง
- กลุ่มทตรวจพบ HBsAg
- กลุ่มที่มีโรคมะเร็งตับในครอบครัว
อุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมลูกหมากในประเทศไทยพบได้น้อยประมาณ 3.8ต่อประชากรชายหนึ่งแสนคน และมีอัตราการตายเพียง0.2 ต่อประชากรชายหนึ่งแสนคน การคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากทำได้สาใวิธีคือ การใช้นิ้วตรวจทางทวารหนัก การตรวจ PSA และการตรวจอัลตราซาวนด์ทางทวารหนัก การตรวจด้วยนิ้วพบว่าความน่าเชื่อถือมีข้อจำกัด การตรวจ PSA ก็มีข้อจำกัดคือพบได้ในผู้ป่วยที่ต่อมลูกหมากโต มะเร็งต่อมลูกหมาก หรือโรคอื่นๆของต่อมลูกหมาก เนื่องจากพบอุบัติการมะเร็งต่อมลูกหมากในประเทศอเมริกาสูงจึงมีคำแนะนำให้คัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก และลำไส้ใหญ่ด้วยการตรวจทางทวารหนัก และเจาะเลือดหา PSA ปีละครั้งตั้แต่อายุ 40 ปีขึ้นไป สำหรับประเทศไทยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ไม่แนะนำให้คัดกรอง ถ้าผู้ป่วยต้องการตรวจควรให้ข้อมูลถึงผลดีผลเสีย
มะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้เป็นอันดับสามปํจจุบันแนะนำให้คัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยการตรวจทวารด้วยนิ้วมือ การตรวจหาเลือดในอุจาระ และการส่องกล้อง ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 40ปีขึ้นไป ไม่แนะนำให้คัดกรองด้วยการตรวจหา CEA ทั้งบุคคลทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากให้ผลลวงสูง
สำหรับประชาชนทั่วไปไม่แนะนำให้คัดกรองโรคมะเร็งตับอ่อนด้วยการตรวจ ultrasound หรือการตรวจ CA19-9 โดยที่ไม่มีอาการ Tumor marker
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : การตรวจหาสาเหตุของโรคมะเร็ง?
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น