ไม่ว่าคุณเองที่กำลังเผชิญหน้ากับโรคมะเร็ง หรือญาติพี่น้อง พ่อแม่ คนรอบข้างเป็นมะเร็ง เชื่อว่านอกจากจะเคยเดินเข้าไปตรวจร่างกาย และทำการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ต้องเคยได้ยินถึงการรักษาด้วยแพทย์แผนโบราณ หรือพูดง่ายๆ คือทานยาสมุนไพรต้มเป็นหม้อๆ ขมๆ นั่นแหละ น้าสาวของเราหลังจากผ่าตัดมะเร็งเต้านม ตัดหน้าอกออกไปข้างหนึ่งแล้ว ก็เลือกที่จะทานยาต้มหม้อต่ออีกระยะหนึ่ง เรียกง่ายๆ ว่าทำทุกวิถีทางที่จะหยุดยั้งเชื้อมะเร็งกันเลยทีเดียว

แล้วยาหม้อที่ว่านี่จะปลอดภัย และช่วยให้หายขากมะเร็งได้จริงหรือไม่ Sanook! Healthหาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ยาสมุนไพร มาจากธรรมชาติ กินแล้วไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะไม่มีสารเคมีตกค้าง?

ก่อนอื่นเลยถ้าใครมีความเชื่อแบบนี้ ถือว่าไม่จริงเสมอไป เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว ถ้าพูดถึงความปลอดภัย ยาแผนปัจจุบันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันแน่นอน เพราะว่าตัวยาจะผลิตออกมา ผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ ทดลองกับสัตว์ และตรวจหาผลข้างเคียงอย่างละเอียดกันมาแล้ว แต่สมุนไพรที่ต้มดื่มเอง ยังไม่ผ่านการทดสองใดๆ บางคนใช้ถูกก็ดีไป แต่กับบางคนอาจมีผลข้างเคียงได้เหมือน มีหลายครั้งเลยทีเดียวที่ผู้ป่วยเลือกทางยาสมุนไพร แล้วมีอาการตับวาย ไตวาย ซึ่งหากเสียชีวิตก็ไม่มีใครบันทึกไว้ว่าเป็นเพราะทานยาสมุนไพร จะคิดว่าเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งเสียมากกว่า

นอกจากนี้ ยาสมุนไพรบางตัวก็มีฤทธิ์กดอาการมะเร็งได้ แต่ไม่ได้ช่วยรักษาให้หายขาด เพราะฉะนั้นถึงจะรู้สึกว่าไม่มีอาการป่วยระยะหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าจะหายขาดแล้วไม่กลับมาเป็นอีก เพราะส่วนใหญ่อาการจะกลับมากำเริบ และเสียชีวิตในที่สุด

คำแนะนำจาก Sanook! Health

1.ถ้าเป็นไปได้ อยากให้รักษากับแพทย์แผนปัจจุบันก่อน หากอยากลองรักษากับแพทย์ทางเลือก ลองนำข้อมูล และตัวยาปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันด้วย ว่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการรักษาของคุณหมอหรือไม่

2.ควรศึกษาข้อมูลของสมุนไพรแต่ละตัวดีๆ อย่าเชื่อคนขายเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หนังสือ หรือตัวคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้ายสมุนไพรอย่างแท้จริง

3.ไม่ว่าจะเป็นยาดีหรือไม่ดี ก็ไม่ควรบริโภคเป็นเวลานานติดต่อกันมากเกินไป หากลองทานแล้ว อาการทรงตัว ไม่ดีขึ้น ลองตรวจสุขภาพกับแพทย์แผนปัจจุบันใหม่แล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง ก็ควรหยุดทานทันที (เน้นตรวจที่ตับและไตด้วย)

ทั้งนี้เราไม่ได้บอกว่ายาต้มหม้อ ยาสมุนไพรจากแพทย์ทางเลือกเป็นยาที่ไม่ปลอดภัย หรือควรหลีกเลี่ยง แต่อยากให้ศึกษาข้อมูล จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มากกว่าการฟังจากปากต่อปากของคนที่อ้างว่าทานแล้วหายจากโรคได้ เพราะจริงๆ แล้วเขาอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้เขาอาการดีขึ้น ซึ่งเราอาจจะไม่ทราบก็ได้

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก เฟซบุ๊ค ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว