081-300-7171 ติดต่อ-สอบถาม

จักษุแพทย์ห่วงหนุ่มสาวออฟฟิศชีวิตติดจอ แนะหยุดพัก เมื่อ ‘ตาล้า’ ลดปัญหาเรื้อรัง

จักษุแพทย์ห่วงหนุ่มสาวออฟฟิศชีวิตติดจอ แนะหยุดพัก เมื่อ ‘ตาล้า’ ลดปัญหาเรื้อรัง

© สนับสนุนโดย Daily News

แนวโน้มการใช้ชีวิตแบบติดจอของคนไทย ยังมีอัตราสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าตกใจ

ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยประจำปี 2558 ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. พบว่าคนไทยมีอัตราการใช้เน็ตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน กลุ่มที่ใช้เน็ตมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ Gen Y 15-34 ปี (54.2 ชั่วโมง/สัปดาห์) และอุปกรณ์หลักที่ใช้งานคือสมาร์ทโฟน

สอดคล้องกับผลการสำรวจพฤติกรรม คนไทยใช้สมาร์ทโฟนในปี 2558 ของ นีลเส็น (ประเทศไทย) พบว่าคนไทยใช้สมาร์ทโฟน 58% เพิ่มขึ้นจาก 49% ในปี 2557

และมีพฤติกรรมใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน 4 ชั่วโมงต่อวัน หรือสัดส่วน 25% ของช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตประจำวัน ไม่นับรวมเวลานอน 8 ชั่วโมงต่อวัน

โดยใช้งานด้านการสื่อสาร ทั้งดาต้าผ่าน Bee Talk ยูทูบ แอพแชท และการโทร (วอยซ์) สูงสุด 94 นาทีต่อวัน ขณะที่แอพพลิเคชั่น ยอดนิยมคือ ไลน์ เฉลี่ย 74 นาทีต่อวัน

ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คนไทยหลายคนเริ่มมีอาการ mobile mania” หรือ “อาการขาดมือถือไม่ได้”หมกมุ่นอยู่กับการเช็กข้อความข้อมูลในมือถือตลอดเวลา เล่นมือถือก่อนนอน หลังตื่นนอน หรือแม้กระทั่งเวลาทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ขับรถ หรือนั่งรถ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนส่งผล กระทบทำให้สายตาเสื่อมเร็วขึ้น

พญ.พรทิพย์ ไตรตรึงษ์ทัศนา จักษุแพทย์ รพ.นนทเวช เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่าคนไทยในวัยหนุ่มสาวมีปัญหาสุขภาพดวงตาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของโลกดิจิตอล เพราะหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ คงหลีกเลี่ยงการใช้งานคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้ ซึ่งการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้สุขภาพตาของเราถดถอยลงไปเรื่อย ๆ สังเกตได้จากความผิดปกติที่ฟ้องด้วยอาการปวดตา สายตาพร่ามัว และปวดหัว หากเราปล่อยให้เรื้อรังเป็นเวลานาน ๆ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางสายตา อื่น ๆ ตามมาได้ เช่น สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง เป็นต้น

ดังนั้น ผู้ที่ใช้ชีวิตติดจอ ควรพักสายตาเป็นระยะ ๆ หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ

ข้อมูลจากผลการวิจัยล่าสุดของ American Academy of Optome try ระบุว่า การนั่งทำงานหน้าจอแล็บท็อป เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง มี แนวโน้มทำให้สุขภาพตาเสียได้ โดยอาจส่งสัญญาณเตือนเป็นอาการตาแห้ง ปวดตา สายตาพร่ามัว สายตาสั้น และพบว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์กว่าร้อยละ 70 มีปัญหาด้านสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง จากการทำงานในแต่ละวัน ซึ่งรวม ถึงการใช้งานอุปกรณ์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนนอกเวลางานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอีเมลงาน เล่นเกม หรือดูเว็บไซต์ เป็นต้น

เมื่อเราใช้สายตาเพ่งดูจออิเล็กทรอ นิกส์ ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากเริ่มมีอาการดวงตาเมื่อยล้า ปวดตา หรือเริ่มแสบตา นั่นแสดงว่า ดวงตาของเราเริ่มประท้วงแล้ว เป็นสัญญาณเตือนให้เราหยุดพักสายตาได้แล้ว และควรถนอมสายตาได้แล้ว ซึ่งเราควรฟังเสียงจากดวงตาที่ฟ้องเราบ้าง อย่าคิดว่าแค่อาการตาล้าธรรมดาและมองข้ามไป เพราะหากละเลยสัญญาณเตือนนี้บ่อย ๆ อาจส่งผลให้สุขภาพดวงตาของเราเสื่อมได้เร็วขึ้น และกลายเป็นปัญหาเรื้อรังตามมาได้”

เพื่อการถนอมสุขภาพดวงตาให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ทางที่ดีเราควรเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง โดยการลุกจากโต๊ะไปทำอย่างอื่น หรือการหยุดพักการจ้องจอคอมพ์ทุก ๆ 20 นาที ด้วยการเปลี่ยนอิริยาบถตัวเอง หรือลุกขึ้นเดินบ้าง ปรับแสงสว่างหน้าจอและตัวหนังสือให้เหมาะสม แสงสว่างภายในห้องต้องสว่างเพียงพอ อย่าปิดไฟมืด เพราะจะยิ่งทำให้สายตาเราเพ่งมองหน้าจอมากยิ่งขึ้น

และที่สำคัญควรดูแลถนอมสุขภาพดวงตาจากภายใน ด้วยการเลือกทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงสายตา เช่น วิตามินเอ ที่ผลงานวิจัยระบุว่า ช่วยในการมองเห็น และยังมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดภาวะตา แห้ง และเลือกรับประทานผลไม้มีฤทธิ์ ในการต้านอนุมูลอิสระอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะพบมากในผักและผลไม้ต่าง ๆ โดยเฉพาะ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่าง ๆ เช่น บิลเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ และแบล็คเคอร์แรนต์ เป็นต้น โดยมีการวิจัยพบว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีแอนโธไซยานิน ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตา ช่วยให้การมองเห็นในเวลากลางคืน และช่วยให้การไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยดี ขึ้น นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซี อี และ ไบโอ ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยปกป้องและถนอมดวงตาไม่ให้โดนทำลาย

นอกจากการบำรุงสุขภาพตาแล้ว สุขภาพร่างกายก็สำคัญ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่ดวงตาดีขึ้น หากต้องออกแดด หรือขับรถควรสวมแว่นกันแดด และควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจเช็กสุขภาพดวงตาปีละครั้ง หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น ตาแดง ปวดตา หรือเคืองตา ควรรีบพบจักษุแพทย์.

credit: เดลินิวส์

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : จักษุแพทย์ห่วงหนุ่มสาวออฟฟิศชีวิตติดจอ แนะหยุดพัก เมื่อ ‘ตาล้า’ ลดปัญหาเรื้อรัง

เข้าสู่ระบบ


ลืมรหัสผ่าน สมัครสมาชิก

ระบบสมัครสมาชิก ถูกปิดการใช้งาน