ฝ้า และ กระ รักษาหายขาดได้จริงหรือ?
คำตอบ คือ ฝ้า และ กระ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 100% เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างรบเร้าให้เกิดขึ้นอีกได้เรื่อยๆ
สาเหตุของการเกิดฝ้า และ กระ หลักๆ มีทั้งหมด 4 สาเหตุ
1.แสงแดด
เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิด ฝ้าแดด กระแดด รังสี UV จากแสงแดดจะไปกระตุ้นทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เม็ดสีเมลานินมีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดเป็นจุดหรือรอยด่างดำขึ้นมา
ตำแหน่งที่พบบ่อยๆ มักจะเป็นส่วนที่ถูกแสงแดด ได้แก่ หน้าผาก โหนกแก้ม สันจมูก หรือหลัง เกิดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
การป้องกันฝ้ากระแดด
- กินกันแดดซันอะเวย์(SunAway) ตอนเช้าก่อน 9.00 น.
- ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
- สวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เพื่อป้องกันแดดทำลายผิว
- พกร่ม พกหมวก แว่นกันแดด
2.ฮอร์โมน
พบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นฝ้า กระ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ สาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงได้แก่ อายุที่มากขึ้น การตั้งครรถ์ การทานยาคุมกำเนิด หรือการทานยาบางชนิดที่มีลักษณะเดียวกับฮอร์โมน เร่งฮอร์โมน ยากันชัก
ตำแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ โหนกแก้มทั้งสองข้าง สันจมูก หน้าผาก เหนือริมฝีปาก
การป้องกันฝ้าฮอร์โมน
ฝ้าแบบนี้ป้องกันยากมาก เพราะสาเหตุเกิดจากปัจจัยภายในที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ดังนี้
- กรณีการตั้งครรถ์ คุณแม่ควรทานอาหารที่มีประโยชน์คำนึงถึงบุตรเป็นหลัก เน้นทางผักผลไม้เพื่อช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรง ทำจิตใจให้สดใสอย่าเครียด จะช่วยลดการเกิดฝ้าได้
- กรณีกำลังเข้าสู่วัยทอง ปัจจัยนี้ทำให้เป็นฝ้าง่ายมากๆ เมื่อฮอร์โมนเพศลดลงมีผลทำให้ ผิวแห้ง ผิวบาง สุขภาพผิวอ่อนแอลง จึงเกิดฝ้าได้ง่าย ถ้าเจอสิ่งเร้าภายนอกเช่น แสงแดด กระตุ้นด้วย ยิ่งมีโอกาสเป็นหนัก เมื่ออายุมากขึ้นยิ่งต้องดูแลตัวเอง พยายามอย่าให้โดนแดด หรือป้องกันแดด และทานอาหารเสริมบำรุงผิว เช่น ซันอะเวย์ ซัทสึมะ
- กรณีฝ้าจากยาคุมกำเนิด แนะนำให้เปลี่ยนยาคุม เพราะยาคุมแต่ละยี่ห้อจะมีระดับฮอร์โมนและสารประกอบไม่เหมือนกัน แนะนำว่าปรึกษาคุณหมอได้เลย
- กรณีฝ้าจากการทานยาอื่นๆ เช่นยาฮอร์โมน ยากันชัก ตรงนี้ผู้ที่ให้คำตอบได้คือหมอเจ้าของไข้เท่านั้น สามารถปรึกษาได้ เพื่อเปลี่ยนตัวยา
ร้อยละ 90 ของคนไทยส่วนใหญ่เป็นฝ้าฮอร์โมน การรักษาฝ้า กระ ฮอร์โมนค่อนข้างยากมาก ต้องรอให้ฮอร์โมนเพศหญิงหมด(เข้าสู่ภาวะวัยทอง) ฝ้า กระ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก
3.กรรมพันธ์
ส่วนใหญ่จะเป็นกระ ถ่ายทอดกันผ่านพันธุกรรม บางเชื้อชาติจะพบว่าผู้หญิงเป็นกระมาก ได้แก่ ยุโรป อเมริกา เป็นต้น
ตำแหน่งที่พบบ่อย จะเป็นจุดเล็กๆ กระจายไปทั่วไปหน้า หรือ บริเวณโหนกแก้ม สันจมูก หรือตามผิวกาย
การป้องกันฝ้ากระกรรมพันธ์
เน้นที่การดูแลผิวเป็นหลัก และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อทำการรักษา
4.การรบกวนผิว
เทรนด์ผิวขาวมาแรงในเมืองไทย จึงมีช่องโหว่ให้พ่อค้า แม่ค้า หัวใสหลายคนทำครีมขาวเร็วขึ้นมาจำหน่าย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยแต่อย่างใด ซึ่งส่วนผสมก็จะมี ปรอท สเตียรอด์ ไฮโดรควิโนน และกรดต่างๆ
การใช้สารกระตุ้นผิวขาวเหล่านี้ส่งผลต่อการรบกวนผิว ทำให้ชั้นผิวถูกทำลาย เซลล์ผิวอ่อนแอ เป็นสาเหตุทำให้เกิดฝ้าาถาวรได้ง่าย
การเลือกซื้อครีมในปัจจุบันต้องเลือกดูให้ดีๆ ถึงจะมี อย ก็ตาม แนะนำว่าควรศึกษาสารประกอบก่อนซื้อ และค้นหามาตรฐานโรงงานผลิตด้วย เพราะหลายแบรนด์ในอินเทอร์เน๊ตใช้วิธีการกวนครีมเองที่บ้าน แล้วสวมชื่อโรงงานเอาก็มี
การรักษาฝ้ากระ
หลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ
- การผลัดผิว เช่น การแต้มกรด การใช้ครีมหรือสารเคมีที่มีกรดอ่อนๆ เพื่อเร่งให้มีการผลัดผิว
- การปรับสีผิว เช่น การยิงเลเซอร์ การทาครีมปรับสีผิว การทานวิตามินบางชนิด
การรักษาฝ้าเหล่านี้ จะต้องทำไปควบคู่กับการบำรุงผิว ทั้งการทาครีมบำรุงผิว และการทานวิตามินเสริมผิว เพื่อให้สุขภาพผิวแข็งแรง ทนต่อสภาวะการณ์รบกวนผิวนั่นเอง
สิ่งที่สำคัญกว่าการรักษาคือ การป้องกัน มีข้อแนะนำดังนี้
- ป้องกันปัจจัยภัยนอกในการรบกวนผิว เช่น แสงแดด การเลือกทาครีมที่ดี
- เน้นอาหารที่เป็นผักผลไม้ และทานวิตามินเสริม
- หลีกเลี่ยงยาที่ผลต่อฮอร์โมน
- ปรับอารมณ์ให้ดี
- เมื่อเป็นแล้วให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาทางออกในการป้องกันและรักษา
credited by: herbitia.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ฝ้า และ กระ รักษาให้หายขาดได้จริงหรือ?
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น