สอนทําครีมกันแดด ภายใต้แบรนด์ตัวเอง กับ 5 หลักสูตรยอดนิยม
สอนทําครีมกันแดด ภายใต้แบรนด์ตัวเอง กับ 5 หลักสูตรยอดนิยม
เนื้อแบบเคาน์เตอร์แบรนด์
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
เปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
***หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ***
- ผู้ที่สนใจอยากผลิตครีมกันแดด ภายใต้แบรนด์ตัวเอง
- ผู้ประกอบการรับจ้างผลิต (OEM)
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง - ผู้ที่สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่
องสำอาง อาทิ นักวิจัย เจ้าหน้าที่ขึ้นทะเบียนผลิตภั ณฑ์เครื่องสำอาง (Regulation Affair เครื่องสำอาง) - เจ้าของกิจการจำหน่ายผลิตภั
ณฑ์เครื่องสำอาง - นักวิทย์ฯในทีมวิจัยและพั
ฒนาสูตรตั้งต้นผลิตภัณฑ์ (RD. Research and Development ), เภสัชกรเครื่องสำอาง และความงาม, บุคลากรด้านสาธารณสุข
***ขอบเขตการเรียนการสอนในหลั กสูตรนี้****
- รู้พื้นฐานการพัฒนาสูตรตั้งต้
นของครีมกันแดดได้ตรงความต้ องการของตลาด - ฝึกปฏิบัติการตั้งสูตร ( สูตรกันน้ำ, สูตรไม่กันน้ำ ฯลฯ) และ ผลิตครีมกันแดดจริงในห้องเรี
ยนปฏิบัติการ - ได้รับองค์ความรู้ของสูตรตั้
งต้นเป็นของตนเอง สามารถประยุกต์ต่อยอดในเครื่ องสำอางที่ต้องใส่ส่ วนผสมของสารกันแดดอื่นๆได้ - ได้ไอเดียในการที่จะผลิตและพั
ฒนาสูตรของครีมกันแดด ที่เหมาะสมและตรงความต้ องการของตลาดที่ผู้เรียนสนใจ
***สิ่งที่คาดว่าผู้เรียนจะได้ รับ***
ผู้เรียน (ประกอบการและผู้ที่สนใจ) ในวงการธุรกิจเครื่
****สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ มและสำรองที่นั่งได้ที่****
บริษัท เค เอส คอสมิทอลโลจี (ประเทศไทย) จำกัด 99/129 ถ. ปทุมสามโคก ต. บางปรอก อ. เมืองปทุมธานี จ. ประทุมธานี 12000
Brand Manager Tel: 083-007-8589, Line ID: careandliving
KS Cosmetology (Thailand) Co.,Ltd.
99/129 Chatluang Village 9, Phathum-Samkhok Rd.
T. Bangprog Muangphathumtani Phathumthani 12000
ประโยชน์ของครีมกันแดด
ช่วยปกป้องการทำลายเซลล์ผิวหนัง จากรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด ซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนัง และยังทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ในคนเอเชียโอกาสที่จะเกิดมะเร็วผิวหนังมีไม่มากนัก ดังนั้นการใช้ครีมกันแดด จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน การเกิดจุดด่างดำบนผิวหนังมากกว่า
ประเภทของครีมกันแดด
ครีมกันแดดมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้คือ
1. Chemical Sunscreen
เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีแสงแดดเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย
2. Physical Sunscreen
เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้ไม่สามารถให้ SPF ที่สูงๆ ได้ และเมื่อทาบนผิวหนังแล้ว หน้าจะดูขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย
3. แบบผสม Chemical-Physical Sunscreen
เป็นการเสริมข้อดี ลดข้อด้อยในแต่ละส่วน นั่นคือ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จากสารประเภทสารเคมี และลดความขาวเมื่อทาครีม และเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดดร่วมกัน
ส่วนผสมในครีมกันแดด สามารถแบ่งตามสารออกฤทธิ์ได้ดังนี้
- สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ป้องกัน UVA ได้แก่ Oxybenzone, Sulisobenzone, Dioxybenzone, Avobenzone, Merxoryl sx
- สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ปัองกัน UVB ไ้ด้แก่ Aminobenzoic acid (PABA), Homosalate, Cinoxate, Octyl methoxycinnamate, Octyl salicylate, Padimate O, Phenylbenzimidazole sulfonic acid, Trolamine salicylate, Methyl anthralinate
- สารออกฤทธิ์กลุ่ม Physical เป็นสารกันแดดที่สะท้อนแสงที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้แก่ Titanium dioxide, Zinc Oxide
แนะนำครีมกันแดด แบรนด์ดังๆ Sunscreen Products
วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด
ในแสงแดดมีรังสีอยู่หลายชนิด ที่รู้จักกันดีก็คือ อุลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งรังสีนี้จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซน มีแค่ UVAและ UVB ที่ลงมาถึงพื้นโลก ซึ่งรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้มีผลต่อผิวหนังโดยเฉพาะ UVA มีผลทำให้เกิด กระ ฝ้า เหี่ยว แก่ก่อนวัย UVB มีผลทำให้เกิดการ แดง แสบ ไหม้ ของผิวหนัง และรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำลายโปรตีนพันธุกรรมทำให้เกิดเนื้องอกผิวหนังได้
วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด
- SPF (Sun Protective Factor) ซึ่งเป็นตัวบอกว่า ป้องกัน UVB ได้กี่เท่าส่วน UVA ยังไม่มีค่ามาตรฐาน ปัจจุบันนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + ปกติคนไทยมีผิวคล้ำซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้างแล้ว ดังนั้น SPF มากกว่า 15 และ PA++ ขึ้นไป ก็เพียงพอ
- ดูที่กิจกรรม ถ้าออกกำลังกลางแจ้ง มีเหงื่อ ว่ายน้ำ ทำงานกลางแดด ต้องใช้ SPF ที่สูงขึ้นและเลือกประเภทที่กันน้ำได้ (Water Proof หรือ Water Resistance)
- ปริมาณ ควรใช้ปริมานที่ไม่น้อยเกินไป เพราะสารเคมีอาจทำปฏิกิริยากันทำให้ลดคุณภาพลงไป
- จำนวนครั้งที่ทาต่อวัน ก็สำคัญ ถ้าอยู่ในออฟฟิศ ห้องแอร์ วันละครั้งก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องทำงานกลางแดด โดนลม อาจจะทาเติม ถ้าว่ายน้ำต้องทาทุก 2-3 ชั่วโมง
- ทาแล้วก็ต้องเลี่ยงแดดด้วย ใส่แว่น ใส่หมวก เนื่องจากครีมกันแดดไม่ได้กันได้ 100 %
- ยี่ห้อ ราคา ไม่สำคัญ ขอให้มีคุณสมบัติครบ ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง เช่น คัน ผื่น
- อาหาร อย่าลืมทานอาหารที่มีความสามารถ กำจัดอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน เกลือแร่ ในผักทุกชนิด และผลไม้ด้วย
วิธีเลือกใช้ครีมกันแดด

สำหรับคนเอเชีย เช่น คนไทย ซึ่งไม่นิยมผิวคล้ำ และการอาบแดด การป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ในช่วงเวลา 9.00-15.00 น., สวมเสื้อผ้าปกคลุมมิดชิด, แว่นกันแดด, หมวกปีกกว้าง, หรือกางร่มเสมอ แต่ในกรณีที่ทำงาน หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง, เด็ก หรือการท่องเที่ยวทางน้ำ มีความจำเป็นต้องใช้ยากันแดด ควรเลือกดังนี้
- ที่มีค่า SPF สูงกว่า 15
- มีสารเคมีที่กัน UVA ได้ดีอย่างน้อย 2 ชนิด เช่น Oxybenzone + TiO2 หรือ Parsol 1789 + ZnO เป็นต้น
- กันน้ำได้ ( water resistance, หรือ water proof)
- มีการทดลองว่า ไม่สลายจากแสง (photo stable)
ควรทายากันแดดให้หนาเพียงพอ 15 นาที ก่อนอยู่กลางแดด และอาจทาซ้ำทุก 15 นาที หลังจากทาครั้งแรก หรือทุก 1-2 ชม. ถ้าว่ายน้ำ หรืออยู่กลางแดดจัด เนื่องจากการทายากันแดดซ้ำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการกันแดด ได้อีก 2-3 เท่า เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ มักทายากันแดดในปริมาณน้อยกว่าที่ควร
สำหรับการใช้ยากันแดด ประจำวัน ในผู้ที่ทำงานในร่ม และใช้เวลานอกอาคาร หรือรถยนต์ เฉพาะช่วงเช้า ก่อน 9 นาฬิกา และหลังจาก 15 นาฬิกา อาจไม่มีความจำเป็น เนื่องจากแสง UVB, UVA สามารถผ่านกระจกรถ ที่ติดฟิล์มกรองแสง ได้น้อยกว่า 5% และแสง UV ในช่วงเวลาเช้าตรู่ และเย็น มีปริมาณน้อย
วิธีทดสอบการแพ้ครีมกันแดด
ให้ทาครีมกันแดดบริเวณใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วสังเกตว่ามีอาการบวม แดงหรือไม่ ถ้าปรากฏอาการดังกล่าวแสดงว่าแพ้สารเคมีชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนบางประเภท (delay sensitivity) จะใช้เวลานานกว่าจะปรากฏอาการแพ้ ดังนั้นจึงควรรอดูอาการถึง 24 ชั่วโมง หรือ 72 ชั่วโมง จึงจะสรุปได้ว่าไม่มีอาการแพ้จริงๆ
ครีมกันแดดที่กันน้ำได้ เลือกที่มีส่วนผสมของ Silicone หรือระบุในฉลากว่ากันน้ำได้ มีวิธีการทดสอบด้วยตนเองโดยทาครีมให้ทั่วแขนแล้วจุ่มแขนลงน้ำแล้วยกแขนขึ้นมา น้ำจะไหลลงจากแขนไปหมด โดยไม่มีน้ำเกาะติดกับผิวเหมือนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด
เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับผิวของตนเองเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะผิวแต่ละชนิดเหมาะกับครีมกันแดดแตกต่างกัน
- ผิวขาวแบบชาวยุโรป เป็นผิวบางมาก เกิดผิวไหม้ง่ายมากหลังสัมผัสกับแสงแดด จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ (SPF 45-60)
- ผิวขาวอมชมพูในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บอบบางมาก เกิดผิวไหม้ได้ไว เกิดผิวสีแทนได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ค่อนข้างสูง (SPF 30-45)
- ผิวขาวเหลืองในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บางแต่ยังมีเมลานินอยู่บ้างจึงสามารถทนต่อแสงแดด การเกิดผิวหนังร้อนแดงได้ช้ากว่าผิว 2 ชนิดแรก ควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่มีค่า SPF ปานกลาง (SPF30)
- ผิวคล้ำ มีเมลานินสูง ผิวสีน้ำตาลไม่เกิดการไหม้ ไม่เกิดสีแทน ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ต่ำ (SPF 15)
SPF ค่าสูงป้องกันได้นานกว่า ไม่ใช่ป้องกันได้ดีกว่า
ความเป็นจริงแล้วค่า SPF (Sun Protection Factor) บ่งบอกถึงระดับความยาวนานของการป้องกันแสงแดดโดยไม่ทำให้ผิวร้อนแดง โดยค่าสูงสามารถปกป้องได้ยาวนานกว่าค่าต่ำ ทำให้ไม่ต้องทาครีมบ่อย
สำหรับผู้ผิวขาวชนิดที่ 1-3
– ครีมกันแดดที่มี SPF 15 ป้องกันผิวก่อนร้อนแดงได้นาน (15 x 5) = 75 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 15 นาที
– ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ป้องกันผิวก่อนร้อนแดงได้นาน (30 x 5) = 150 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 30 นาที
– ครีมกันแดดที่มี SPF 60 ป้องกันผิวก่อนร้อนแดงได้นาน (60 x 5) = 300 นาที หรือ 5 ชั่วโมง
สำหรับผู้มีผิวคล้ำ ชนิดที่ 4
– ครีมกันแดดที่มี SPF 15 มีระยะเวลาที่ทำให้ผิวร้อนแดง(15 x 15) = 225 นาที หรือ 3 ชั่วโมง 45 นาที
– ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ป้องกันผิวก่อนร้อนแดงได้นาน (30 x 15) = 450 นาที หรือ 7 ชั่วโมง 30 นาที
– ครีมกันแดดที่มี SPF 60 ป้องกันผิวก่อนร้อนแดงได้นาน (60 x 15) = 900 นาที หรือ 15 ชั่วโมง
cr. guru.sanook.com
เปิดอบรม “หลักสูตรผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด”
(Sunscreen Product Courses)
5 หลักสูตรยอดนิยม
จุดเด่น
“เรียนรู้เข้าใจได้ แม้ไม่มีพื้นฐาน”
“ได้ลงมือปฏิบัติทุกขั้นตอน สามารถทำได้จริง”
“ได้รับสูตรผลิตภัณฑ์ พร้อมผลิตภัณฑ์ไปใช้จริง”
“เรียนจบภายใน 1 วัน”
“แนะนำบริษัทขายวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ต่างๆ”
เหมาะสำหรับ
– ผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางประเภทครีมกันแดด
– ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านเครื่องสำอาง
– ผู้ที่สนใจอยากสร้างแบรนด์ของตัวเอง
– ผู้ประกอบการที่ต้องการปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้เป็นเอกลักษณ์
– ผู้ที่ต้องการเพิ่มความรู้ด้านการพัฒนาและปรับสูตรผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด
โดยสอน 5 หลักสูตรยอดนิยม ดังนี้
- ครีมกันแดดเนื้อมูสใยไหม SPF 50/PA+++ (Mousse Sunscreen SPF 50/PA+++)
- ครีมกันแดดน้ำแตก SPF 50 (Water Drop Sunscreen Cream SPF50)
- ครีมกันแดด อิมัลชั่น SPF 50/PA+++Emultion Sunscreen SPF 50/PA+++
- กันแดดเนื้อบางเบา SPF 50 (Water in Silicone Sunscreen SPF50)
- ครีมกันแดด SPF30 (Sunscreen Lotion SPF 30)
สอนโดย
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางประสบการณ์ 10 ปี
พร้อมให้คำปรึกษา **ฟรี เรื่องการสร้างแบรนด์ การทำตลาดเครื่องสำอางและการขึ้นทะเบียน อย **
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : สอนทําครีมกันแดด ภายใต้แบรนด์ตัวเอง กับ 5 หลักสูตรยอดนิยม
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น