1. เปิดน้ำล้างท่อก่อน
ก่อนอาบน้ำให้คุณเปิดฝักบัวล้างท่อสักหนึ่งนาที เพราะผลวิจัยของมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ชี้ว่าท่อประปาในห้องน้ำอาจจะเป็นแหล่งแบคทีเรียที่ทำให้ลำไส้อักเสบเมื่อสูดหายใจผ่านละอองน้ำ และถ้าคิดจะไปดำผุดดำว่ายในแม่น้ำ ก็อย่าให้น้ำเข้าปากเด็ดขาด เพราะน้ำในแม่น้ำก็เป็นแหล่งแบคทีเรียเช่นกัน
2. กินถั่วเป็นกับแกล้ม
การแวะผับหลังเลิกงานอาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง แต่คุณก็ลดความเสี่ยงได้ง่ายมาก แค่หาจุดสมดุลระหว่างเบียร์และกับแกล้มให้เจอเท่านั้นเอง เพราะถึงผลวิจัยของคณะวิจัยนานาชาติซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาโภชนาการยุโรปจะชี้ว่าโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้จะเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเบียร์ทุกๆ 2 หน่วยที่คุณมักจะดื่มในแต่ละวัน แต่ปริมาณกากใยอาหารที่ร่างกายได้รับเพิ่มขึ้นทุกๆ 10 กรัมจะช่วยลดโอกาสดังกล่าวได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ และถั่ว 1 ถุงก็มีปริมาณกากใยอาหารราว 5 กรัม
3. เปลี่ยนยา
มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ที่ชิคาโกชี้ว่ายาแก้ปวดอาจจะทำให้หายเมาค้าง แต่ถ้ากินมากเกินไป ยาแก้ปวดอย่างแอสไพรินก็จะเป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารและเยื่อบุลำไส้ คุณจึงควรจะเปลี่ยนไปกินยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์อย่างพาราเซตามอล หรือจะวิ่งให้หายเมาค้างแทนก็ได้
4. ใช้น้ำมันสะระแหน่
บทวิเคราะห์โดยมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ในประเทศแคนาดาชี้ว่า น้ำมันสะระแหน่ช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวนได้ดีกว่ายาคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่แพทย์สั่งให้เสียอีก และถ้าคุณใส่ในเครื่องดื่มเกลือแร่สัก 3 หยด น้ำมันสะระแหน่ก็จะช่วยเพิ่มความอึดและพละกำลังด้วย
5. นอนตะแคงซ้าย
นักวิจัยใน Clinical Gastroenterology ให้กลุ่มตัวอย่างกินอาหารที่อุดมด้วยไขมันแล้วนอนนาน 4 ชั่วโมง ปรากฏว่าคนที่นอนตะแคงซ้ายมีอาการกรดไหลย้อนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
6. ดื่มน้ำขิง
ผลวิจัยโดยแพทย์โรคทางเดินอาหารของสหรัฐฯ ชี้ว่ายารักษาอาการแสบร้อนกลางอกจะขัดขวาง
การดูดซึมวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพสมองและพละกำลัง ฉะนั้นถ้ากินมากเกินไปก็บรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกด้วยการดื่มน้ำขิงใส่น้ำผึ้งและขมิ้นแทนดีกว่า
7. พึ่งสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
ให้นำสารสกัดจากเมล็ดองุ่นชนิดผงไปปั่นรวมกับส่วนผสมอื่นๆ ในโปรตีนเชคและดื่ม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มพลังก่อนออกกำลังกายแล้ว สารสกัดจากเมล็ดองุ่นยังดีต่อสุขภาพลำไส้ด้วย โดยผลวิจัยของมหาวิทยาลัยแอดิเลดชี้ว่าอาหารเสริมชนิดนี้มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและต้านมะเร็งในลำไส้ แถมราคายังไม่แพงอีกต่างหาก จึงน่าลองเป็นอย่างยิ่ง
8. เล่นท่า Breathing Squat
นอกจากจะช่วยเพิ่มกล้ามแล้ว ท่า Breathing Squat ยังดีต่อระบบภายในร่างกายด้วย ตอนเล่นท่านี้คุณต้องพยายามย่อตัวให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อมกับปล่อยลมหายใจออกให้หมด เพราะนี่คือวิธีที่จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการย่อยและการขับถ่าย โดยสถาบันฟิตเนส Chek แนะนำให้เล่นวันละ 5 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง
9. ดื่มชาเป็นประจำ
ผลวิจัยจากเยอรมนีชี้ว่าโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่จะเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ สำหรับทุกๆ 2 ชั่วโมงที่คุณใช้เวลาในแต่ละวันนั่งนานขึ้น แต่ถ้าดื่มชาเป็นประจำก็จะช่วยลดโอกาสดังกล่าวได้ถึง 14 เปอร์เซ็นต์
10. เลี่ยงน้ำตาลเทียม
นอกจากจะไม่ได้ช่วยลดรอบเอวแล้ว ซอร์บิทอลและไซลิทอลยังกระตุ้นให้เกิดอาการท้องอืดและท้องร่วงอีกด้วย เพราะทั้งคู่เป็นน้ำตาลเทียมซึ่งร่างกายย่อยได้ไม่หมด
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
credit: Men’sHealth Thailand
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 10 วิธีรักษาสุขภาพลำไส้
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น