081-300-7171 ติดต่อ-สอบถาม

7 ประเภทของพลาสติกมีอะไรบ้าง?

7 ประเภทของพลาสติกมีอะไรบ้าง?

ในปัจจุบันได้มีการรณรงค์การนำวัสดุต่างๆ มารีไซเคิลเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมไปถึงการนำพลาสติกต่างๆ ไปรีไซเคิลด้วย สมาคม อุตสาหกรรมพลาสติกแห่งอเมริกา (The Society of the Plastics Industry, Inc.)ได้กำหนดสัญลักษณ์มาตรฐานของพลาสติกยอดนิยม กลุ่มต่างๆ ที่สามารถนำกลับมาหมุนเวียนหรือที่เรียกว่าการรีไซเคิล (Recycle) ไว้ 7 ประเภทหลักๆ โดยหากพลาสติกใดสามารถนำมารีไซ-เคิลได้ ก็จะมีรหัสอันประกอบด้วยลูกศร 3 ตัว วนเป็นรูป 3 เหลี่ยมรอบๆ ตัวเลขตัวหนึ่งดังแสดงในรูปภาพ อย่างไรก็ตามก่อนจะทราบรายละเอียดของพลาสติกทั้ง 7 ประเภท เรามาทำความรู้จักความหมายคร่าวๆ ก่อนว่าพลาสติกคืออะไร

พลาสติกคืออะไร

พลาสติกจัดเป็นวัสดุพอลิเมอร์ที่เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีลักษณะเป็นสายโซ่ยาวๆ แต่ไม่สามารถมองเห็นเป็นสายโซ่ได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งสายโซ่ดังกล่าวประกอบด้วยหน่วยย่อยๆที่เรียกว่ามอนอเมอร์ พอลิเมอร์สามารถสังเคราะห์ได้จากกระบวนการพอลิเมอร์ไรเซชั่น (polymerization) ของมอนอเมอร์ โดยใช้แหล่งวัตถุดิบจากปิโตรเคมีเป็นหลัก พลาสติกมีหลายชนิดและสามารถใช้แทนวัสดุธรรมชาติได้ หลายอย่าง เช่น พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ใช้ผลิตท่อพีวีซี, พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท (PET) ใช้ผลิตขวดบรรจุน้ำดื่ม และพอลิสไตรีน (PS) ใช้ผลิตภาชนะบรรจุต่างๆ เช่นช้อน พลาสติก เป็นต้น

เมื่อพลาสติกโดนความร้อนจะเป็นอย่างไร

เมื่อพลาสติกโดนความร้อนจะแสดงคุณสมบัติ 2 แบบหลักคือ 1) พลาสติกจะแข็งตัวถาวรไม่ว่าจะถูกความร้อนมากแค่ไหนก็ตาม ทำให้ ไม่สามารถหลอมเพื่อขึ้นรูปใหม่ตามที่ต้องการได้ ซึ่งจะเรียกพลาสติกกลุ่มนี้ว่า “เทอร์โมเซตติ้ง (thermosetting)” และ 2) พลาสติกจะเกิด การอ่อนตัวเมื่อถูกความร้อน และจะกลับไปแข็งเมื่อพลาสติกเย็นขึ้น ทำให้สามารถนำไปหลอมขึ้นรูปใหม่ได้ ซึ่งจะเรียกพลาสติกแสดง คุณสมบัติแบบนี้ว่า “เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)” ซึ่งพลาสติกที่สามารถนำมารีไซเคิลได้คือพลาสติกประเภท “เทอร์โมพลาสติก
(Thermoplastic)”

พลาสติกรีไซเคิลทั้ง 7 ประเภท

พลาสติกหมายเลข 1 มีชื่อว่า พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท (Polyethylne Terephthalate)

หรือที่รู้จักกันดีว่า เพ็ท (PET หรือ PETE) เป็นพลาสติกใส แข็ง ทนแรงกระแทกดี ไม่เปราะแตกง่าย และกันแก๊สซึมผ่านดี ใช้ทำขวดบรรจุน้ำดื่ม ขวดน้ำมันพืช เป็นต้น สามารถนำมา รีไซเคิลเป็นเส้นใย สำหรับทำเสื้อกันหนาว พรม และใยสังเคราะห์สำหรับยัดหมอน เป็นต้น 

พลาสติกหมายเลข 2 มีชื่อว่า พอลิเอธิลีนความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene)

หรือที่เรียกแบบย่อว่า เอชดีพีอี (HDPE) เป็นพลาสติกที่เหนียวและแตกยาก ค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ทนทานต่อสารเคมีและสามารถขึ้นรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย ใช้ทำขวดนม ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำยาทำความสะอาด ยาสระผม เป็นต้น สามารถนำมารีไซเคิลเป็น ขวดน้ำมันเครื่อง ท่อ ลังพลาสติก ไม้เทียม เป็นต้น

พลาสติกหมายเลข 3 มีชื่อว่า พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride)

หรือที่รู้จักกันดีว่า พีวีซี (PVC) ใช้ทำท่อน้ำประปา สายยางใส แผ่นฟิล์มสำหรับห่ออาหาร แผ่นพลาสติกสำหรับทำประตู หน้าต่าง และหนังเทียม เป็นต้น สามารถนำมารีไซเคิลเป็นท่อน้ำประปาหรือรางน้ำ สำหรับการเกษตร กรวยจราจร เฟอร์นิเจอร์ ม้านั่งพลาสติก ตลับเทป เคเบิล แผ่นไม้เทียม เป็นต้น

พลาสติกหมายเลข 4 มีชื่อว่า พอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (Low Density Polyethylene)

สามารถเรียกแบบย่อว่า แอลดีพีอี (LDPE) เป็นพลาสติกที่มีความนิ่ม เหนียว ยืดตัวได้มาก ใส ทนทาน แต่ไม่ค่อยทนต่อความร้อน ใช้ทำฟิล์มห่ออาหารและห่อของ ถุงใส่ขนมปัง ถุงเย็นสำหรับบรรจุอาหาร สามารถนำมารีไซเคิลเป็นถุงดำสำหรับใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว ถังขยะ กระเบื้องปูพื้น เฟอร์นิเจอร์ แท่งไม้เทียม เป็นต้น

พลาสติกหมายเลข 5 มีชื่อว่า พอลิโพรพิลีน (Polypropylene) เรียกโดยย่อว่า พีพี (PP)

เป็นพลาสติกที่มีความ ใส ทนทานต่อความร้อน คงรูป เหนียว และทนแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังทนต่อสารเคมีและน้ำมัน ใช้ทำภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม จาน ถัง ตะกร้า กระบอกใส่น้ำแช่เย็น ขวดซอส แก้วโยเกิร์ต ขวดบรรจุยา สามารถนำมารีไซเคิลเป็นกล่องแบตเตอรี่ในรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น กันชนและ กรวยสำหรับน้ำมัน ไฟท้าย ไม้กวาดพลาสติก แปรง เป็นต้น

พลาสติกเลข 6 มีชื่อว่า พอลิสไตรีน (Polystyrene) หรือที่เรียกโดยย่อว่า พีเอส (PS)

เป็นพลาสติกที่มีความใส แต่เปราะและแตกง่าย ใช้ทำภาชนะบรรจุของใช้ต่างๆ หรือโฟมใส่อาหาร เป็นต้น สามารถนำมารีไซเคิลเป็นไม้แขวนเสื้อ กล่องวิดีโอ ไม้บรรทัด กระเปาะเทอร์โมมิเตอร์ แผงสวิตช์ไฟ ฉนวนความร้อน ถาดใส่ไข่ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ได้

พลาสติกเลข 7 นั้นมิได้มีการระบุชื่อจำเพาะ

แต่ไม่ใช่พลาสติกชนิดใดชนิดหนึ่งใน 6 ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แต่เป็นพลาสติกที่นำมา หลอมใหม่ได้

ขยะพลาสติกจึงไม่ควรนำไปทิ้งรวมกับขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้เช่น ขยะสด ขยะที่สามารถเผาได้ ขยะที่ไม่สามารถเผาได้เป็นต้น แต่ควรแยกทิ้งโดยแยกประเภทของขยะพลาสติกและล้างทำความสะอาดก่อนจะนำไปทิ้ง เพื่อที่จะได้นำขยะพลาสติกเหล่านี้ไปรีไซเคิลเป็น ผลิตภัฑณ์อื่นๆ ต่อไป เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก

เอกสารอ้างอิง

รูป plastic code ดัดแปลงมาจาก
http://battlethebottlecaps.wordpress.com/tag/resin-identification-codes/
รูปภาพพลาสติกรีไซเคิลทั้ง 7 รูปได้มาจาก
http://www.thedailygreen.com/green-homes/latest/recycling-symbols-plastics-460321
http://www.plasticsindustry.org/AboutPlastics/content.cfm?ItemNumber=823&navItemNumber=2144
http://en.wikipedia.org/wiki/Plastic_recycling
http://www.greenguidenetwork.com/article-detail/May-17-2010—The-7-Types-of-Plastic–What-They-Mean-to-Your-Health.-202/

เรียนทำเครื่องสำอาง สอนทำครีม สอนทำเวชสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงาม สำหรับธุรกิจส่วนตัว

ศูนย์อบรมเครื่องสำอาง (Cosmetics Training Center Thailand)

หลักสูตรการผลิตเครื่องสำอาง

soap-and-cosmetics-development-%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%92%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%9a%e0%b8%b9%e0%b9%88-%e0%b8%84%e0%b8%a3

สถาบันอบรมเครื่องสำอาง 

Cosmetics Training Center (CTC)

*****เนื้อหาและสิ่งที่จะได้รับ*****

  1. เอกสารประกอบการเรียน พื้นฐานผิวหนัง ความหมายของเครื่องสำอาง
  2. วิธีปฎิบัติ หน้าที่สารสำคัญต่างๆ ในการขึ้นสูตรตำรับ
  3. แนะนำบริษัทที่ขายวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ มาจำหน่ายในประเทศไทย
  4. สอนวิธีการคำนวณต้นทุนครีมเมือเทียบเป็นกิโลกรัม สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า 10 เท่า
  5. แนะนำวิธีการเลือกสารสกัด สารออกฤทธิ์ต่างๆมาใส่ในสูตรให้เหมาะสม ออกฤทธิ์ได้ดีเห็นผล
  6. สอนการใช้อุปกรณ์ที่จำเป็นพื้นฐานในห้องแลบ
  7. สอนวิธีการตรวจสอบคุณภาพครีม การดู สี กลิ่น การซึมเข้าสู่ผิว การเกลี่ย เนื้อสัมผัส การวัดความเป็นกรดด่างของครีมและสภาวะที่เหมาะสม
  8. สอนวิธีการทดสอบคุณภาพ Stability Test เช่น Centifugation, Heating –Cooling Cycle, Viscosity Testing
  9. แนะนำโรงงานที่จัดจำหน่าย กระปุก หลอดครีม ภาชนะบรรจุต่างๆ
  10. แนะนำโรงงานทำฉลาก สติ้กเกอร์ ทำกล่อง สกรีนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
  11. แนะนำระบบ GMP โรงงาน
  12. แนะนำเรื่องการตลาด การสร้างแบรนด์
  13. แนะนำการจดทะเบียนโรงงาน การจดทะเบียนผู้ประกอบการ การจดแจ้ง อ.ย
  14. แนะนำช่องทางการจัดจำหน่าย ออนไลน์ ออฟไลน์
  15. สอนจนเข้าใจ สามารถกลับไปทำเองได้แน่นอนเรียนจบได้ภายใน 1 วัน
  16. ราคารวมอาหารกลางวันและอาหารว่างแล้ว
  17. มีใบประกาศนียบัตรมอบให้
  18. กรณีสามารถเรียนซ้ำได้ โดยจ่ายแค่ 50% ของราคาหลักสูตร
  19. ทางสถาบันมีอุปกรณ์ให้ท่านไม่ต้องเตรียมมา

 มีคำถามมากมาย ที่ลูกค้าสงสัย เรามีคำตอบ มาชมเนื้อครีมที่สอน #สวยจริงมั้ย 
หลักสูตรสกินแคร์ คอร์สที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะให้สูตรพรีเมี่ยม เนื้อครีมสวย ฟิลลิ่งดี และจัดเต็มถึง 100 สูตร++ #ได้ครีเอทสูตรเอง เรียนผลิตสกินแคร์ กันแดด ⭐️Essence ⭐️Serum ⭐️Cream ⭐️Gel  ⭐️Lotion ⭐️Toner 
 
👩🔬‍ สำหรับผู้ที่อยากรู้ลึกและครบทุกเนื้อครีม👨🔬

  1. ให้สูตรที่ใช้วัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการผลิตขายในเชิงอุตสาหกรรม
  2. ใช้ Homogenizer และเครื่องมือมาตรฐานแล๊บที่นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้งานจริง 
  3. ผู้เรียนได้ลงมือทำการผลิตเองทุกขั้นตอน 
  4. แนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์เครื่องมือ

หลักสูตรเหมาะสำหรับ ☑️เจ้าของแบรนด์ ☑️ผู้ผลิต ☑️ผู้สนใจเริ่มธุรกิจ

  1. ประสบการณ์สอนแบบไพรเวทนาน 10 ปี 
  2. หลักสูตรโดยนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางปริญญาโทมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 
  3. เราเป็นมืออาชีพด้านการผลิตเครื่องสำอางทุกประเภท
  4. ห้องแล๊บใหม่ 

#ครีมเกรดพรีเมี่ยม  #ไม่มีกั๊กสูตร #สอนปรับสูตร #สอนออกแบบสูตรเอง #เครื่องมือมาตรฐานแล๊บ #อาจารย์ตอบทุกคำถาม #สอนทำครีม #สอนทำมาส์ก #สอนทำครีมกันแดด #สอนทำเครื่องสำอาง #สอนทำสบู่ #สอนทำแชมพู #สอนจดอย #สอนการตลาด #สร้างแบรนด์

เปิดอบรม “สอนทำเครื่องสำอาง สอนทำครีม” สอนวันเดียวทำได้เลย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

สอนจากประสบการณ์จริง เรียนได้แม้ไม่มีพื้นฐาน

1. หลักสูตรยอดนิยม

ดังนี้

1. ครีมมาร์คหน้าขาวใสข้ามคืน (Overnight Whitening Mask Cream)  4,500 บาท

2. ครีมบำรุงผิวหน้าขาวใส ลดฝ้ากระ  (Day and Night Whitening Cream)  4,000 บาท

3. เซรั่มลดเลือนริ้วรอยสูตรเข้มข้น (Anti Wrinkle Concentrated Serum)  3,500 บาท

4. ครีมกันแดดผสมรองพื้น  SPF 50/PA+++  (Sunscreen With Foundation SPF50/PA+++)  3,500 บาท

5. เจลล้างหน้าเพื่อผิวกระจ่างใส (Whitening Cleansing Clear Gel )** 3,000 บาท

*****สามารถแยกเรียนเป็นหลักสูตรได้*****

โปรโมชั่นหลักสูตร 1-4 ราคารวม  16,000 บาท ลดเหลือ 12,000 บาท

แถมหลักสูตรที่ 5 มูลค่าอีก 3,000 บาทฟรี

สมัครเรียน 2 ท่าน ลดเพิ่มอีก 5% ทันที

*****เปิดสอนทุกสัปดาห์ *****

บริษัท เค เอส คอสมิทอลโลจี (ประเทศไทย) จำกัด 

Brand Manager

Tel: 083-007-8589, Line ID: careandliving

KS Cosmetology (Thailand) Co.,Ltd.
99/129 Chatluang Village 9, Phathum-Samkhok Rd.
T. Bangprog Muangphathumtani Phathumthani 12000

มีฝ่าย R&D จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
พัฒนาสูตร และผู้เชี่ยวชาญดูแล อย่างใกล้ชิด

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 7 ประเภทของพลาสติกมีอะไรบ้าง?

เข้าสู่ระบบ


ลืมรหัสผ่าน สมัครสมาชิก

ระบบสมัครสมาชิก ถูกปิดการใช้งาน